Posted by : Unknown 22 พฤศจิกายน 2556


หลายเดือนแล้วที่ไม่ได้ออกเที่ยวต่างจังหวัด หาที่ที่ไม่ไกลไปพักผ่อนกันสักนิดดีกว่า
งั้นไปเชียงคาน จังหวัดเลยกันดีมั้ย
ผมอยากไปเชียงคานกับภูทอก นอกนั้นก็แล้วแต่ชาวคณะจัดทริปกันเองนะ
เมื่อตกร่องปล่องชิ้น เอ้ยย..ตกลงกันเรียบร้อยแล้ว ทริปนี้ 3 วัน 2 คืน (6-8 กันยายน 2556)

เราใช้เส้นทางอุตรดิตถ์-ทองแสนขัน-นครไทย-ด่านซ้าย-ภูเรือ-เลย-เชียงคาน
ช่วงภูเรือมุ่งสู่เมืองเลย  GPS ชนิดไม่กินไฟแต่กินข้าวเป็นพลังงานก็บอกว่า
"เลี้ยวซ้าย เลี้ยวซ้าย ไปทางท่าลี่ "
"แต่ GPS บอกไปตามทางเรื่อยๆนะ"
"เถอะน่า หาข้อมูลมาแล้ววว"
เอ้า เลี้ยวก็เลี้ยว ถนนเส้นนี้สภาพดี ต้นหญ้าเขียวครึ้ม
ขับไปสักพักไม่พบเพื่อนร่วมถนนเลย ผมจึงมั่นใจว่าเหตุการณ์นั้นกำลังเกิดขึ้น
"มาผิดทางแล้ววววว"  
GPS เครื่องที่บอกให้เลี้ยวนั้นหัวเราะเอิ้กอ้ากๆ เอาน่าเดี๋ยวยังไง GPS จริงๆก็นำทางถึง
ซึ่งเส้นทางนี้ไม่ค่อยมีรถเลย หากมองในแง่ดีวิวระหว่างทางเส้นท่าลี่ก็ใช้ได้เหมือนกันนะ

หลังจากใช้เส้นทางท่าลี่อีกประมาณ 1.30 ชม. คณะเรา 4 คน 2 ผัวเมีย 
ก็มาถึงที่พักพร้อมสายฝนกระหน่ำอย่างเรียบร้อยปลอดภัยดี
รอฝนซาก็เริ่มเดินสำรวจพื้นที่ทันที

เดินได้สักพักนึงดูท่าจะเดินหมดแรงแน่ๆไปเช่าจักรยานดีกว่า
จักรยานเช่าราคาเริ่มที่ 50 บาท / หมดแรงนอน
(เค้าว่ามายังงี้ คงหมายถึงจนกว่าจะขึ้นนอนละมั้ง 555)
ถ้าจักรยานแนวโบราณ เสือภูเขา ค่าเช่าก็จะแพงขึ้นไปอีก
ได้จักรยานแล้วก็ปั่นมาสำรวจกระชังปลาสักนิดนึง

มาถึงเชียงคานในหน้าฝนและตอนเย็นวันศุกร์ เงียบ เงิบ ได้ที่ทีเดียว
หน้าฝนนักท่องเที่ยวยังไม่ค่อยมี หลายร้านจึงยังไม่เปิดทำการ
หลายที่ก็ปิดปรับปรุงเพื่อรอรับนักท่องเที่ยวที่จะมีมากกว่าในช่วงหน้าหนาว

หัวค่ำก็มาเดินดูข้าวของ ดูร้านรวงของเชียงคานซะหน่อย ส่วนใหญ่ก็เป็นเสื้อผ้า ของที่ระลึก
แนวๆเดียวกับที่ท่องเที่ยวที่นิยมทั่วไป ยังนึกไม่ออกว่าอะไรคือสัญลักษณ์หรืออัตลักษณ์ของเชียงคาน
"เห้ย...อย่าหมาหมู่ดิเฟร้ยยย"

เช้าวันรุ่งขึ้นไปชมวิวบนภูทอก ซึ่งเป็นภูเขาเล็กๆ เห็นรูปคนอื่นๆวิวสวยใช้ได้เหมือนกัน
ซึ่งห่างจากที่พักประมาณ 8 กม. ขับรถไปถึงตีนภูประมาณ 5.30น.
แล้วนั่งรถกะบะหรือ รถ 2 แถว ที่ทางอบต.จัดไว้ขึ้นไปบนยอดภูอีกต่อ
ค่าบริการคนละ 25 บาท
เมื่อตอนดึกฝนเพิ่งตกก็ก้ำกึ่งว่าจะเจอหมอกสวยหรือไม่ก็หมอกฟุ้ง พี่คนขับรถบอกว่า
เมื่อวานหมอกสวยเชียว วันนี้ก็น่าจะสวยนะ
นั่งรถเที่ยวแรกกลุ่มแรกขึ้นไปก็เจอหมอกกำลังเยอะทีเดียวและนี่ก็เป็นภาพเดียวที่ได้มา
ก่อนพื้นที่ด้านล่างจะถูกหมอกพิศวงกลืนไปจนมองไม่เห็นพื้นดินอีก... 
1/128sec F4 40mm. ISO2000 ค่ากล้องค้างมาจากเมื่อคืนอีกด้วย  

เห้ยยย...รถที่พาเราขึ้นมาก็ขับฝ่าหมอกพิศวงลงไปอย่างรีบเร่งโดยที่เรายังไม่ได้ขึ้นรถซะงั้น .... 
จะทำยังไงละที่นี้ คงต้องรอให้หมอกจางแล้วรอรถมารับพวกเรากลับละมัง
พวกเราก็ยืนรออย่างกระวนกระวายกว่าครึ่งชั่วโมงหมอกก็ยังคงไม่จาง
ก็จึงออกเดินเล่นบริเวณรอบๆดีกว่ายืนรออยู่เฉยๆ

และก็มาเจอเจ้าหมีตัวนึงที่พึ่งตื่นจากการจำศีล เจ้าหมีถามเราว่า "พวกเจ้ามาทำอะไรที่นี่"
"มาชมวิวครับ แต่ตอนนี้อยากกลับแล้วแต่ไม่รู้จะกลับยังไง รถที่พามาก็ขับออกไปแล้ว"
"คงติดอยู่ในหมอกนี่ละสินะ ถ้าจะกลับไปยังที่ที่พวกเจ้ามาจงทำตามที่ข้าบอก..."

"พวกเจ้าจงเดินตามทางข้างหน้าไปเรื่อยๆ หากเจออะไรแปลกๆ ห้ามทัก ห้ามมอง และห้ามจับ !!!"
เราก็เดินเข้าไปตามทางนั้นและทำตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด ถึงแม้หลายครั้งเหมือนเห็นอะไรอยู่ตรงหางตา
อยากหันไปมองหรือร้องออกมาก็ตาม !!!

"ระหว่างทางพวกเจ้าจะเจอดอกไม้ดอกหนึ่ง ให้นำดอกไม้นั้นติดตัวไปด้วย"

"แล้วนำไปให้ผู้หญิงนางนั้น และนางจะช่วยพวกเจ้า หมี๋ หมี๋ หมี๋ หมี๋ (เสียงหัวเราะของหมี)"
หลังจากมอบดอกไม้ให้ผู้หญิงนางนั้นแล้วพวกเราก็รู้สึกตาลายและเหมือนจะหลับไป

มารู้สึกตัวอีกครั้งที่ "แก่งคุดคู้" ต่างคนต่างก็งงกับเรื่องที่เกิดขึ้น
แต่ก็ไม่มีใครสามารถให้ความกระจ่างกับเรื่องที่เกิดขึ้นบนภูทอกได้เลย
ช่วงนี้น้ำเยอะแก่งคุดคู้เลยมองไม่เห็นแก่งสักแก่ง

คงต้องเข้าวัดทำบุญกันบ้างละ "วัดพระพุทธบาทภูควายเงิน"
     ถนนใหญ่และสะพานกำลังปรับปรุงโปรดระมัดระวังกันนะครับ
และถนนที่จะขึ้นสู่วัดเป็นถนนคอนกรีตสภาพดีแต่ลาดชันพอควร
ความกว้างของถนนพอให้รถ 2 คันสวนกันได้พอดี
วันที่เราไป ทางวัดกำลังก่อสร้างและบูรณะรอยพระพุทธบาทจึงไม่ได้เข้าไปกราบสักการะ 

บริเวณวัดจะเต็มไปด้วยกระต่ายเป็นฝูงๆ
มีบริการผักบุ้งให้ผู้มาเยี่ยมเยียนให้อาหารกระต่ายกัน
ดูแล้วถูกใจสาวๆเหลือเกินสังเกตจากมีเสียงวี๊ดว๊ายปนเสียงหัวเราะเป็นระยะ  

"พระเจ้าใหญ่ พุทธฉัพรรณรังสี" ประดับไปด้วยกระจกเงาชิ้นเล็กๆสวยงาม
มุมบนวัดมองเห็นด้านล่างสวยงามพอใช้ได้ ติดเขาและต้นไม้ใหญ่พอสมควรครับ

เริ่มหิวตะหงิดๆ กลับไปแถวที่พักหาขนมปังสังขยากินกันดีกว่า
เอ๊ะ !!!... เจ้าหมีที่เจอบนภูทอกมาได้ไงเนี่ย 
จัดขนมปังสังยาให้ 1 ชุด แทนการขอบคุณที่พาพวกเราออกจากหมอกพิศวงบนภูทอก

อิ่มหนำสำราญกันถ้วนทั่วทุกคนแล้วก็กลับมาพักผ่อนที่โรงแรมก่อน
เก็บแรงไว้เดินช๊อปปิ้งตอนกลางคืน
ส่วนผมก็เดินเล่นแถวถนนเลียบโขงก่อน

เห้อ..อุตส่าห์มีฟ้าสวยๆแต่ไม่รู้จะถ่ายอะไรดี
เอี๊ยดดดด ... นั่นอะไร มีคนอยู่ข้างล่างด้วย ล็อกเป้าหมายแล้วค่อยๆย่องเข้าหา

... เอ้าา...อึ๊บบบบบ ... 
หลังจากทักทายก็นั่งคุยกับแกอยู่พักนึง ดูแล้วไม่ค่อยได้ปลาแฮะ
ยกยอ 5 ครั้ง ได้ปลาตัวเท่านิ้วโป้ง 1 ตัว แต่แกก็ไม่ได้ร้อนใจว่าได้ปลาน้อยก็ยังคุยสนุกอยู่

ระหว่างรอถ่ายรูปตาก็เหลือบไปเห็นตัวอะไรสักอย่าง
เป็นก้อนดำๆอยู่ข้างถังปลาของป้า มันพ่นน้ำออกมาได้ด้วย
"ป้าๆ ไอ้ตัวนั้นมันอะไรครับ มีน้ำพ่นออกมาด้วย"
"อ๋อ ปลาปักเป้าไง ตัวนี้กินได้"
"มันทำไมตัวหยึ๋ยๆยังงี้ละครับ"
"เอ้าเดี๋ยวจะทำให้พองให้ดูนะ"
แล้วป้าก็จับปลาปักเป้าไปแกว่งในน้ำแป๊บนึง
ตัวมันก็พองออกเป็นเหมือนลูกบอลและมีหนามเล็กๆเต็มตัว
แกต้องคอยจับไว้ไม่งั้นมันจะกลิ้งลงน้ำก็อดกัน 555

     นั่งรอชมพระอาทิตย์ตกดินคนเดียวเปล่าเปลี่ยวอุรา
บรรดาสาวๆออกไปเดินช๊อปปิ้งกันสักพักแล้ว ไอ้เราก็เริ่มหิวเหมือนกันไปตามหาสาวๆดีกว่า
 

น้องๆจากโรงเรียนดนตรีมาหาประสบการณ์ และฝึกการแสดงออก เป็นที่ชี่นชอบของผู้คนที่ผ่านไปมา

ทริปนี้เอาขาตั้งกล้องใส่รถมาแต่ก็ขี้เกียจพก ซึ่งพักหลังๆเริ่มขี้เกียจบ่อยมาก อิอิ
ก็เลยได้ทไวไลท์แบบน๊อยส์ๆมาฝากจ้าาา

     อาหารมื้อเย็นผมว่าไม่ต้องกินเป็นเรื่องราวหรอกครับ
เดินหากินขนมของจุกจิกตามข้างทางดีกว่าอิ่มและหลากหลายกว่า
เพราะถ้าจัดมื้อเย็นมาเต็มของน่ากินอื่นๆอาจจะกินไม่ไหวแล้วจะหงุดหงิดน๊าาา 555

คืนสุดท้ายก่อนอำลาเชียงคาน เดินช๊อปปิ้งกันสุดถนน 3 เที่ยว ปวดขาชะมัด
เช้านี้ตักบาตรข้าวเหนียวกันครับ ตื่น5.30น. พระมา 6.00น.
เกือบไม่ทัน อากาศดีนอนกลิ้งบนเตียงเพลินเชียว

ขากลับเราจะอ้อมไปทางเลย-ภูเรือ-ด่านซ้าย-แวะทานข้าวที่ รูท 12
และเข้าพิษณุโลก-อุตรดิตถ์
แต่แล้วผมก็แกล้ง ย้ำนะครับว่าแกล้งหลงไปทางภูหลวงเพื่อเอาภาพภูเขาข้าวโพดมาฝากเพื่อนๆ

อีกสักภาพกับเส้นทางสายข้าวโพดคั่ว "Popcorn Roads"
ใช้พื้นที่คุ้มค่าจริงๆ ปลูกข้าวโพดติดราวกั้นถนนกันทีเดียว

แวะทานข้าวที่ รูท 12 อิ่มหนำสำราญและถ่ายรูปกันจุใจแล้วก็กลับบ้านกันอย่างปลอดภัย
กราบลาทริป "ที่นี่เลย...เชียงคาน" ไว้เพียงเท่านี้ สวัสดีค่ะ
ปล.เรื่องราวหมอกพิศวงบนภูทอกเป็นเรื่องแต่งเอาสนุกๆนะครับ
ภาพมันเรียงกันทำให้เกิดจินตนาการที่ฟุ้งซ่าน


{ 1 ความคิดเห็น... read them below or add one }

  1. How To Make Money On Sports Betting
    Online sports betting is gri-go.com available for a whole kadangpintar host of deccasino US and European casino-roll.com sports หาเงินออนไลน์ betting markets. Some US states, like Louisiana and New Jersey, allow

    ตอบลบ

- Copyright © S.SUWANNASRI - Powered by Blogger - Designed by Johanes Djogan - Skyblue - Contact : suwanasri.s@gmail.com - W3Counter

W3Counter

Back to Top